ประวัติการลอยกระทงและรูปกระทงสวยๆ

20.11.53


การลอยกระทง เป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าปฏิบัติกันมาแต่เมื่อไร เพียงแต่ท้องถิ่นแต่ละแห่งก็จะมีจุดประสงค์และความเชื่อในการลอยกระทงแตกต่างกันไป เช่น ในเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ก็จะเป็นการบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นบูชารอยพระพุทธบาท ณ หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำนัมมทา ซึ่งปัจจุบันคือแม่น้ำเนรพุททาในอินเดีย หรือต้อนรับพระพุทธเจ้าในวันเสด็จกลับจากเทวโลกเมื่อครั้งไปโปรดพระพุทธมารดา นอกจากนี้ ก็ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อบูชาพระอุปคุตเถระที่บำเพ็ญบริกรรมคาถาในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล บางแห่งก็ลอยกระทงเพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของตน บางแห่งก็เพื่อแสดงความขอบคุณพระแม่คงคาซึ่งเป็นแหล่งน้ำให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งขอขมาที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงไป ส่วนบางท้องที่ก็จะทำเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับ หรือเพื่อสะเดาะเคราะห์/ลอยทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ และส่วนใหญ่ก็จะอธิษฐานขอสิ่งที่ตนปรารถนาไปด้วย


พระยาอนุมานราชธน ได้สันนิษฐานว่า ต้นเหตุแห่งการลอยกระทงอาจมีมูลฐานเป็นไปได้ว่า การลอยกระทงเป็นคติของชนชาติที่ประกอบกสิกรรม ซึ่งต้องอาศัยน้ำเป็นสำคัญ เมื่อพืชพันธุ์ธัญชาติงอกงามดี และเป็นเวลาที่น้ำเจิ่งนองพอดี ก็ทำกระทงลอยไปตามกระแสน้ำไหลเพื่อขอบคุณแม่คงคา หรือเทพเจ้าที่ประทานน้ำมาให้ความอุดมสมบูรณ์ เหตุนี้ จึงได้ลอยกระทงในฤดูกาลน้ำมาก และเมื่อเสร็จแล้วจึงเล่นรื่นเริงด้วยความยินดี เท่ากับเป็นการสมโภชการงานที่ได้กระทำ ว่าได้ลุล่วงและรอดมาจนเห็นผลแล้ว ท่านว่าการที่ชาวบ้านบอกว่าการลอยกระทงเป็นการขอขมาลาโทษและขอบคุณต่อแม่คงคา ก็คงมีเค้าในทำนองเดียวกับการที่ชาติต่างๆ แต่ดึกดำบรรพ์ได้แสดงความยินดีที่พืชผลเก็บเกี่ยวได้ จึงได้นำผลผลิตแรกที่ได้ไปบูชาเทพเจ้าที่ตนนับถือเพื่อขอบคุณที่บันดาลให้การเพาะปลูกของตนได้ผลดี รวมทั้งเลี้ยงดูผีที่อดอยาก และการเซ่นสรวงบรรพบุรุษที่ล่วงลับ เสร็จแล้วก็มีการสมโภชเลี้ยงดูกันเอง ต่อมาเมื่อมนุษย์มีความเจริญแล้ว การวิตกทุกข์ร้อนเรื่องเพาะปลูกว่าจะไม่ได้ผลก็น้อยลงไป แต่ก็ยังทำการบวงสรวงตามที่เคยทำมาจนเป็นประเพณี เพียงแต่ต่างก็แก้ให้เข้ากับคติลัทธิทางศาสนาที่ตนนับถือ เช่น มีการทำบุญสุนทานเพิ่มขึ้นในทางพุทธศาสนา เป็นต้น แต่ที่สุด ก็คงเหลือแต่การเล่นสนุกสนานรื่นเริงกันเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น การลอยกระทงจึงมีอยู่ในชาติต่างๆทั่วไป และการที่ไปลอยน้ำ ก็คงเป็นความรู้สึกทางจิตวิทยา ที่มนุษย์โดยธรรมดา มักจะเอาอะไรทิ้งไปในน้ำให้มันลอยไป


ในหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์หรือตำนานนางนพมาศ ซึ่งเป็นพระสนมเอกของพระมหาธรรมราชาลิไทยหรือพระร่วง แห่งกรุงสุโขทัย ได้กล่าวถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองว่าเป็นเวลาเสด็จประพาสลำน้ำตามพระราชพิธีในเวลากลางคืน และได้มีรับสั่งให้บรรดาพระสนมนางในทั้งหลายตกแต่งกระทงประดับดอกไม้ธูปเทียนนำไปลอยน้ำหน้าพระที่นั่ง ในคราวนั้นท้าวศรีจุฬาลักษณ์หรือนางนพมาศ พระสนมเอกก็ได้คิดประดิษฐ์กระทงเป็นรูปดอกบัวกมุทขึ้น ด้วยเห็นว่าเป็นดอกบัวพิเศษที่บานในเวลากลางคืนเพียงปีละครั้งในวันดังกล่าว สมควรทำเป็นกระทงแต่งประทีป ลอยไปถวายสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งเมื่อพระร่วงเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นก็รับสั่งถามถึงความหมาย นางก็ได้ทูลอธิบายจนเป็นที่พอพระราชหฤทัย พระองค์จึงมีพระราชดำรัสว่า “แต่นี้สืบไปเบื้องหน้าโดยลำดับ กษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์ วันเพ็ญเดือน ๑๒ ให้นำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน” ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นโคมลอยรูปดอกบัวปรากฏมาจนปัจจุบัน



ในโอกาสดีๆที่จะมาถึงนี้จึงได้รวบรวมรูปแบบของกระทงสวยๆมาฝากกันครับ

กระทงจากขนมปัง








กระทงจากเทียน






กระทงจากใบตอง










กระทงจากดอกหน้าวัว





กระทงจากกะลา


READ MORE - ประวัติการลอยกระทงและรูปกระทงสวยๆ

น้ำผึ้งแห่งเนปาล น้ำผึ้งล้ำค่าแห่งหิมาลัยที่มนุษย์ใฝ่ฝันลิ้มลอง

17.11.53


วิธีเก็บน้ำผึ้งที่สืบทอดมาแต่โบราณที่มีเพียงบันไดเชือก มนต์เสน่ห์ของน้ำผึ้งเนปาล ที่ทำให้มนุษย์ยอมทุ่มเททุกอย่าง เพื่อได้ลิ้มรสชาติอันน่าทึ่งของน้ำผึ้งล้ำค่า.



ณ หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาทาพรัง (Taprang) บ้านของนักเก็บน้ำผึ้ง ชาวเนปาล การสัมผัสการเดินทางไปเยือนหน้าผาที่ผึ้งยักษ์อาศัยอยู่ พบผึ้งยักษ์ขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของ ผึ้งยุโรปและความเชื่อเรื่องโชคลางของนักเก็บน้ำผึ้งชาวเนปาล ที่จะไม่เก็บน้ำผึ้งในวันพระจันทร์เต็มดวง



วิธีการเก็บน้ำผึ้งแบบดั้งเดิมที่มีเพียงแค่บันไดเชือก ตะกร้าและเครื่องมือตัด ที่นักเก็บน้ำผึ้งชาวเนปาลไม่ได้สวมชุดป้องกันอะไรเลย...ภารกิจเสี่ยงตายและท้าทายในการปีนหน้าผาเพื่อขึ้นไปเก็บน้ำผึ้ง โดยตัดส่วนสีเหลือง ซึ่งเป็นตัวอ่อนของผึ้งออก แล้วค่อยเก็บน้ำผึ้งได้ที่ส่วนบนของรัง จากนั้น ต้องวางตำแหน่งตะกร้ารองน้ำผึ้งให้ได้พอดี




















ด้วยสาเหตุที่กว่าจะได้น้ำผึ้งนี้มามันแสนจะลำบากยากเข็น จึงทำให้น้ำผึ้งแห่งเนปาลเป็นสุดยอดน้ำผึ้งล้ำค่าที่ทุกคนหมายปองอยากลิ้มลองรสชาติอันหวานหอม
READ MORE - น้ำผึ้งแห่งเนปาล น้ำผึ้งล้ำค่าแห่งหิมาลัยที่มนุษย์ใฝ่ฝันลิ้มลอง

อาหารสำหรับบำบัดมะเร็งลำไส้ใหญ่

14.11.53


โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้เปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตผิดปกติจนไม่สามารถควบคุมได้ ผู้สูงอายุและผู้มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งจะมีอัตราเสี่ยง มากกว่าคนปกติหรือผู้ที่มีภาวะโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง และผู้ที่รับประทานอาหารที่มีเส้นใยน้อย ก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากขึ้น อาการโดยส่วนใหญ่ของมะเร็งลำไส้จะมีท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระมีเลือดสด อุจจาระมีขนาดเล็กลง มีอาการจุกเสียดแน่นบ่อยครั้ง อ่อนเพลียและน้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากลำไส้เป็นอวัยวะสำคัญในระบบทางเดินอาหาร

ดังนั้น ต้องดูแลเรื่องอาหารเป็นพิเศษ การรักษาที่ถูกต้องร่วมกับโภชนบำบัดที่ถูกหลัก สามารถลดการแพร่กระจายและอาการทรมานจากมะเร็งได้

คำแนะนำในการกินอาหารสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่



อาหารจำพวกแป้ง





ควรเลือกชนิดที่เป็นพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นหลัก พวกที่มีใยอาหารอาทิ ข้าวกล้อง ธัญพืช เนื่องจากกลุ่มใยอาหารจะทำหน้าที่ในการดูดซับสารก่อมะเร็งและน้ำดีแล้วขับ ออกจากร่างกาย ดังนั้นการได้รับใยอาหารที่พอเหมาะ จะช่วยลดโอกาสการรับสารก่อมะเร็งของร่างกายได้ ควรรับประทานประมาณ 6-8 ทัพพีต่อวัน สำหรับผู้ที่ผ่าตัดกระเพาะอาหารและลำไส้แล้ว มีอาการแน่นไม่สบายท้อง ไม่ควรรับประทานครั้งละมากควรจะค่อยๆ รับประทานทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง


เนื้อ นม ไข่


เป็นมะเร็งกินอาหารอย่างไร


ผู้ป่วยควรได้รับโปรตีนวันละ 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ไข่และเนื้อสัตว์ต่างๆเป็นแหล่งของโปรตีนที่ให้กรดอะมิโนครบถ้วน หากผู้ป่วยไม่รับประทานเนื้อสัตว์เลยควรรับประทานถั่วเหลืองผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองแทน

แต่หากยังรับประทานเนื้อสัตว์อยู่ ควรเลือกชนิดที่ไม่ติดมันเป็นหลัก หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก กุนเชียง แหนม เพราะอาหารแปรรูปมักใส่สารไนไตรท์ ไนเตรต มีไขมันมาก ทำให้กระตุ้นการเกิดมะเร็งมากขึ้น

มีงานวิจัยการเสริมโฟเลทสามารถช่วยลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ซึ่งสาร อาหารนี้พบมากในนม ดังนั้นการดื่มนมช่วยเสริมสร้าง สารโฟเลทแต่ควรเลือกชนิดพร่องมันเนย

ไขมัน



วิธีการรักษาผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่


โดยทั่วไปแล้วอาหารประเภทไขมันควรระวังไม่รับประทานมากแม้ในคนปกติ สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ยิ่งจำเป็นต้องดูแลเรื่องของไขมัน ควรเลือกใช้ไขมันที่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว เนื้อปลาทะเลจะมีไขมันไม่อิ่มตัว

ซึ่งผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินเสริม เพราะหากรับประทานน้ำมันสกัดยิ่งทำให้ร่างกายได้รับน้ำมันเกินความจำเป็นอาจเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

งดไขมันที่เกิดจากการปิ้งย่างหรือการทอดน้ำมันซ้ำ ล้วนแต่ก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งได้ และเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะสัมผัสกับลำไส้โดยตรงเสี่ยงต่อการทำให้โรคเป็นมากขึ้น

ผักและผลไม้ต่างๆ



อาหารรักษามะเร็ง


ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการของโรคมากในระยะนี้ ควรลดปริมาณที่รับประทาน เนื่องจากระบบย่อยอาหารของผู้ป่วยเริ่มแปรปรวน การได้รับใยอาหารมากอาจส่งผลให้เกิดอาการแน่นท้องและท้องอืดได้ อาจรับประทานที่ละน้อย ผักบางชนิดยิ่งทำให้ท้องอืด โดยเฉพาะผักที่มีกลิ่นฉุนเพราะมีสารพวกกำมะถันอยู่มาก เช่น ต้นหอม หัวหอมใหญ่ ดังนั้น หากมีอาการท้องอืดอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยง

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการวิจัยหลายงานวิจัยที่พบอาหารมีผลดีต่อการป้องกันและต่อต้าน มะเร็งลำไส้ โดยเฉพาะพืชตระกูลกะหล่ำ เพราะมีสาร Isothiocyanate ซึ่งให้ผลดีในการควบคุมมะเร็ง การรับประทานควรล้างให้สะอาด เพราะแม้ผักชนิดนี้จะมีสารพฤษเคมีที่เป็นประโยชน์มากก็จริง แต่ก็เป็นแหล่งตกค้างของสารฆ่าแมลงมากเช่นกัน วิธีการล้างผักที่ได้ผลค่อนข้างดีอาจในน้ำส้มสายชู หรือการลวกผักก็จะเป็นการช่วยลดสารเคมีตกค้างลงไปมาก

กรณีผู้ป่วยผ่าตัดลำไส้ออกบางส่วน ทำให้ระบบย่อยอาหารได้รับความเสียหายบ้างในช่วงแรก ควรรับประทานอาหารเหลวที่มีพลังงานสูง เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ง่ายขึ้น ไม่ควรรับประทานผักและผลไม้มากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดลมในช่องท้องได้

ผลไม้สามารถรับประทานได้ทุกชนิด ยกเว้นกรณีเพิ่งได้รับการผ่าตัดควรเลือกชนิดที่ย่อยง่าย เช่น มะละกอสุก กล้วยน้ำว้า เป็นต้น และเพิ่มการดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อป้องกันการอุดตันของลำไส้จากเส้นใยอาหาร
READ MORE - อาหารสำหรับบำบัดมะเร็งลำไส้ใหญ่

การปลูกกล้วยแบบห่อเครือทำให้ผิวกล้วยสวยราคางาม

13.11.53

การปลูกกล้วยแบบห่อเครือกล้วย

กล้วย เป็นพรรณไม้ล้มลุกในสกุล Musa มีหลายชนิด เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำไท กล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว กล้วยไข่ กล้วยตานี กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง กล้วยนิ้วมือนาง กล้วยส้ม กล้วยนาค กล้วยหิน กล้วยงาช้าง ฯลฯ บางชนิดก็ออกหน่อแต่ว่าบางชนิดก็ไม่ออกหน่อ ใบแบนยาวใหญ่ ก้านใบตอนล่างเป็นกาบยาวหุ้มห่อซ้อนกันเป็นลำต้น ออกดอกที่ปลายลำต้นเป็น ปลี และมักยาวเป็นงวง มีลูกเป็นหวี ๆ รวมเรียกว่า เครือ

การปลูกกล้วย

กล้วยเป็นพืชที่ปลูกง่ายโตเร็วประโยชน์ใช้สอยเยอะ แต่การที่จะปลูกกล้วยเป็นอาชีพนั้นต้องพิถีพิถันเพื่อที่จะทำให้กล้วยที่เราปลูกนั้นมีคุณค่าและราคาที่สูงซึ่งทำได้ไม่ยาก

กล้วยหอมทองอินทรีย์ก็เป็นหนึ่งในผลผลิตทางการเกษตรที่มีอัตราการส่งออกไปสู่ประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการกำหนดให้กล้วยแต่ละลูกต้องเรียงตัวกันอยู่ในหวีอย่างสวยงาม สีสวย รวมทั้งรสชาติดีและมีกลิ่นหอม

ดังนั้นเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมทองอินทรีย์เพื่อส่งออก จึงจำเป็นต้องพิถีพิถันกับการปลูกในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในช่วงที่กล้วยหอมทองออกผล เกษตรกรต้องทำการห่อเครือกล้วยหอมทองไว้ เพื่อป้องกันผลไม่ให้ได้รับการเสียดสีจากใบเมื่อลมพัด ป้องกันฝุ่นและแมลงด้วย

วิธีการห่อเครือกล้วย

วัสดุที่เกษตรกรมักจะใช้ในการห่อกล้วยหอมส่วนใหญ่จะใช้กระสอบปุ๋ยเคมีซึ่งจะป้องกันแสงแดดและแมลงทำให้สีกล้วยสวยเนียนเหลืองน่ารับประทานสามารถส่งตามห้างสรรพสินค้าและส่งออกต่างประเทศได้ ซึ่งต่างจากกล้วยที่ไม่ห่อคือสีของกล้วยมีรอยบอบช้ำไม่ได้มาตรฐานจึงทำให้ราคาต่ำลง

กล้วยที่สวยๆสามารถส่งประกวดชิงรางวัลได้




กล้วยไทยที่ส่งออกต่างประเทศต้องได้มาตรฐานผิวสวยการเรียงตัวสวย



READ MORE - การปลูกกล้วยแบบห่อเครือทำให้ผิวกล้วยสวยราคางาม