คนค้นฅน - 1 วิญญาณ 2 สังขาร (15 ก.พ. 2554)

17.2.54

คนค้นฅน - 1 วิญญาณ 2 สังขาร (15 ก.พ. 2554)
คนค้นฅน - 1 วิญญาณ 2 สังขาร
เรื่องราวของ 1 วิญญาณ ที่ต้องรับผิดชอบสองสังขาร




READ MORE - คนค้นฅน - 1 วิญญาณ 2 สังขาร (15 ก.พ. 2554)

"แพลเน็ต โซลาร์" เรือยักษ์-พลังแสงอาทิตย์!


องค์กร "แพลเน็ตโซลาร์" เปิดตัว "เรือพลังงานแสงอาทิตย์" 100 เปอร์เซ็นต์ขนาดใหญ่ยักษ์ที่สุดลำแรกของโลก เท่าที่เคยมีการต่อขึ้นมา เตรียมนำออกแล่นไปทั่วโลกเพื่อปลุกกระแสและแสดงให้เห็นว่า "เทค โนโลยีเซลล์สุริยะ" ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นสามารถใช้งานได้จริง และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับธุรกิจเรือโดยสาร รวมถึงเรือสำราญ!



ความพยายามคิดค้นนำเอา "เซลล์สุริยะ" หรือ "แผงโซลาร์เซลล์" มาติดตั้งกับ "เรือ" นั้นเริ่มทดลองกันตั้งแต่เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน

กระทั่งล่าสุด แนวคิดดังกล่าวก็กลายเป็นจริงในที่สุด

ภายหลังจากองค์กร "แพลเน็ตโซลาร์" ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประสบความสำเร็จในการสร้างเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ 100 เปอร์เซ็นต์ และใช้ชื่อเรือชื่อเดียวกับชื่อองค์กรนั่นเอง!



"ความรู้สึกของผมตอนนี้ไม่รู้จะบรรยายออกมาว่าอย่างไรดี เพราะมันตื้นตันไปหมดนะครับ

"เรือลำนี้คือสิ่งที่ผมเฝ้าฝันถึงมาโดยตลอด" ราฟาเอล ดอมญอง วัย 38 ปี 1 ในผู้ริเริ่มโครงการแพลเน็ตโซลาร์ กล่าว

เรือสีขาวสะอาดลำนี้มีเนื้อที่ 100 คูณ 50 ฟุต

ด้านบนของตัวเรือติดตั้งแผงเซลล์สุริยะ สีดำทะมึน กินเนื้อที่ประมาณ 5,380 ตารางฟุต

ส่วนตรงกลางลำเรือเป็นที่ตั้งของ "สะพานเดินเรือ" ซึ่งจะมีกัปตันคอยช่วยกันทำหน้าที่ 2 คน

"แพลเน็ตโซลาร์" รองรับผู้โดยสารสูงสุดถึงหลักร้อย
READ MORE - "แพลเน็ต โซลาร์" เรือยักษ์-พลังแสงอาทิตย์!

คลิปจากฝั่งเขมร เครื่องยิง BM21 ขณะยิงถล่มใส่ไทย

14.2.54

คลิปจากฝั่งเขมร เครื่องยิง BM21 ขณะยิงถล่มใส่ไทย

เอาใจช่วยทหารไทยด้วยนะครับ




READ MORE - คลิปจากฝั่งเขมร เครื่องยิง BM21 ขณะยิงถล่มใส่ไทย

ทหารทลายฐานปฏิบัติการณ์ย่อยRKKที่เจาะไอร้อง นราธิวาส วันที่ 9 ก.พ. 54

9.2.54

ทหารทลายฐานปฏิบัติการณ์ย่อยRKKที่เจาะไอร้อง
ทหารทลายฐานปฏิบัติการณ์ย่อยRKKที่เจาะไอร้องยึดของกลางเพียบ แถมรวบผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน และส่งกำลังไล่ล่าคาดโจรใต้นำปืนเอ็ม 16 ที่ปล้นจากฐานพระองค์ดำหนี

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 9 ก.พ. 54 พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และ พ.ท.ชัยนรินทร์ เกษมโชติพัฒน์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 ได้ร่วมสนธิกำลังสั่งการให้ ร.อ.สมบูรณ์ โชติเนตร หัวหน้าฝ่ายข่าว ฉก.นราธิวาส 31 นำกำลังจำนวน 50 นาย ขึ้นพิสูจน์ทราบบนเทือกเขาบ้านเจาะเกาะ ม.13 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง หลังจากสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธ RKK ใช้สถานที่ดังกล่าวตั้งฐานปฏิบัติการณ์ย่อย เพื่อซ่องสุมกำลังเตรียมที่จะวางแผนก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง

โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเดินเท้าขึ้นเทือกเขาที่ลาดชันไปประมาณ 1 ก.ม. พบฐานปฏิบัติการณ์ย่อยของกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่ปลูกสร้างด้วยเสาไม้ 4 ท่อน และใช้ผ้าใบกันฝนทำเป็นหลังคา จำนวน 1 หลังที่ตั้งตะหง่านอยู่บนเนินดิน โดยมีกองกำลังติดอาวุธ RKK จำนวน 6-7 คน เดินและนั่งอยู่รอบฐาน และเมื่อเจ้าหน้าที่กำลังกระจายกำลังกันโอบล้อมอยู่นั้น กองกำลังติดอาวุธ RKK เห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากปะทะกันเป็นละลอกๆนานกว่า 15 นาที กลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้พากันนำกำลังล่าถอยไป แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมสมาชิกแนวร่วมได้ 1 คน พร้อมยึดของกลางได้จำนวนกว่า 100 รายการ

ซึ่งของกลางที่สำคัญๆประกอบด้วย ชุดลายพรางทหาร กระสุนปืนเอ็ม16 หมวกไหมพรม เปลสนาม เชือก เวชภัณฑ์ มีดพร้า เป้สะพาย เข็มขัดกระสุน ผ้าโสร่ง เสื้อยืดสกรีนเป็นภาษีลูมี แปลเป็นไทยว่าแผ่นดินใครปกครองและอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมควบคุมตัวสมาชิกแนวร่วม 1 คน ไปทำการตรวจสอบและสอบขยายผลที่ฐานปฏิบัติการณ์ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 31 พร้อมประสานแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรงยุติธรรม ทำทำการตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ. เพื่อเก็บหลักฐานขยายผลไปสู่การจับกุมกลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ RKKต่อไป

ส่วนกำลังอีก จำนวนหนึ่ง พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 ได้ส่งกำลังขึ้นไล่ล่าบนเทือกเขา ซึ่งคาดว่ากลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่หลบหนีไปได้นั้น น่าจะมีอาวุธปืน เอ็ม.16 ที่คนร้ายได้บุกปล้นจากคลังอาวุธของร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 39 เมื่อคืนวันที่ 19 มกราคม 54 ที่ผ่านมา
READ MORE - ทหารทลายฐานปฏิบัติการณ์ย่อยRKKที่เจาะไอร้อง นราธิวาส วันที่ 9 ก.พ. 54

เทคนิคการถ่ายภาพเวลากลางคืนให้สวย

7.2.54

เทคนิคการถ่ายภาพในเวลากลางคืนให้สวย
การถ่ายภาพกลางคืน (NIGHT LIGHT) ได้แก่ การถ่ายภาพที่อาศัยแสงสว่างจากไฟฟ้าตามท้องถนน ป้ายนีออนโฆษณา
น้ำพุ การยิงพลุ ห้องโชว์สินค้า ไฟประดับในวันเฉลิมฉลองต่าง ๆ แสงไฟจากรถยนต์ แสงเทียน สายฟ้าแลบ ดวงจันทร์ และดวงดาวบนท้องฟ้า ความสวยงามต่าง ๆ ที่เราสามารถมองเห็นได้ในเวลาค่ำคืนดังกล่าว เรา สามารถบันทึกภาพที่งดงามเหล่านั้นด้วยกล้องถ่ายภาพได้เช่นเดียวกับการถ่ายภาพในเวลากลางวัน แต่จะมีเทคนิคยังไงนั้นไปดูกัน
ถ่ายภาพตอนกลางคืนยังไงให้สวย
การถ่ายภาพกลางคืนไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นจนเกินไป โดยเฉพาะแสงสีในเมืองนั้น สามารถถ่ายภาพให้ดู สวยงามได้ง่ายๆ เพียงแต่มีกล้องที่ปรับความเร็วชัตเตอร์ต่ำได้ และหาวิธีป้องกันภาพสั่นไหวจากความเร็ว ชัตเตอร์ต่ำ หากถือกล้องด้วยมือ ภาพที่ได้จะเบลอไม่คมชัด วิธีที่ดีที่สุดคือใช้ขาตั้งกล้อง ซึ่งจะช่วยลดการ สั่นไหวได้เป็นอย่างดี หากความเร็วชัตเตอร์ต่ำมากๆ เช่น 1 วินาที หรือต่ำกว่านั้น ไม่ควรใช้นิ้วกดปุ่ม ชัตเตอร์โดยตรง เพราะเพียงกดชัตเตอร์เบาๆ ก็อาจเกิดการสั่นไหวจนส่งผลให้ภาพที่ได้ขาดความคมชัด ควรใช้สายลั่นชัตเตอร์ แต่ถ้าไม่มีก็ใช้ระบบถ่ายภาพหน่วงเวลาก็ได้ กล้องบางรุ่นเลือกหน่วงเวลาช่วงสั้นๆ เช่น 2 หรือ 3 วินาที ทำให้ถ่ายภาพได้โดยไม่ต้องรอคอยนานเกินไป สำหรับกล้องดิจิตอลเมื่อมีสิ่งรองรับ กล้องที่มั่นคง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ความไวแสงสูงๆ ควรปรับ ISOไปที่ต่ำสุด เพื่อให้ภาพที่ได้มี Noise น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย
ปรับกล้องยังไงไม่ให้มี noise

การถ่ายภาพตอนกลางคืนวัตถุที่ถูกถ่ายก็คือต้นกำเนิดแสงตามท้องถนน เช่นไฟของรถยนต์ ไฟข้างถนน ไฟจากหน้าต่างของตึกรามบ้านช่องจึงไม่มีการจัดแสงเหมือนตอนถ่ายภาพตอนกลางวัน แต่ก็ควรจัดองค์ ประกอบให้ตำแหน่งดวงไฟต่าง ๆ อยู่ในกรอบของภาพอย่างน่าดู การตั้งหน้ากล้องในการถ่ายภาพตอน กลางคืน ไม่เหมือนตอนกลางวันที่มีค่าถูกต้องเพียงค่าเดียว ค่าการฉายแสงเมื่อถ่ายภาพตอนกลางคืน ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะแสดงอะไรในภาพถ่าย สุดท้ายถ้าต้องการถ่ายภาพพลุหรือดอกไม้ไฟควรตั้งกล้อง
บนสามขา ใช้สายลั่นไกชัตเตอร์ ถ้าถ่ายภาพพลุให้โฟกัสภาพที่ไกลสุดแล้วเปิดหน้ากล้องประมาณ f/8 ใช้เวลา 2-3 วินาทีเป็นต้น ถ้าต้องการจะถ่ายภาพให้เห็นดวงประทีปโคมไฟบนท้องถนนในขณะมี่งาน เฉลิมฉลอง เช่นคืนวันเฉลิมพระชนมพรรษาก็อาจจะเปิดหน้ากล้อง f/16 เวลา 1/2 วินาที ก็อาจจะถ่ายภาพ ติดโดยใช้ฟิล์มความไวสูงแต่ถ้าเปิดหน้ากล้องนาน 4 วินาที ก็จะมีเส้นแสงเนื่องจากไฟหน้ารถยนต์ปรากฏเพิ่มเติม ในภาพดูงามตา ในการถ่ายภาพทิวทัศน์ตอนกลางคืนอาจใช้เส้นแสงในแนวทะแยงนำไปสู่จุดสำคัญในภาพ และถ้า ถ่ายให้เห็นแสงสะท้อนในน้ำด้วย ก็จะช่วยให้ภาพดูน่าสนใจยิ่งขึ้น สำหรับการถ่ายภาพตอนกลางคืนที่มีการแสดง ดนตรี ท่านควรเลือกใช้ฟิล์มที่มีความไวแสงสูงเช่น 400 หรือ 1000 ไอเอสโอ เลือกใช้เลนส์ที่มี f/2.8 ก็จะสามารถถ่ายภาพโดยใช้มือถือได้โดยไม่ควรใช้แฟลต เพราะแสงแฟลชจะไปทำลายบรรยากาศและแสงสีภายใน ห้องแสดง เป็นต้น ตัวอย่างภาพการแสดงดนตรีภายในห้องที่มีแสงไฟอบอุ่น
ถ่ายภาพยังไงไม่ให้แสงแฟลชไปทำลายบรรยากาศและแสงสีภายในห้อง

การถ่ายภาพในเวลากลางคืนนั้นต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นดังนี้
1. กล้องถ่ายภาพชนิดที่มีความเร็วชัตเตอร์ B หรือ T
2. ขาตั้งกล้อง
3. สายไกชัตเตอร์
4. นาฬิกาจับเวลา
5. ไฟฉายดวงเล็ก ๆ
6. สมุดบันทึกสำหรับจดรายละเอียด เช่น เวลาในการเปิดหน้ากล้อง
วิธีการถ่ายภาพ ในเวลากลางคืน

วิธีการถ่ายภาพ ในเวลากลางคืน
1. ติดตั้งกล้องกับขาตั้งกล้องให้มั่นคง พร้อมติดตั้งสายลั่นชัตเตอร์ให้พร้อม
2. ส่องกล้องหาทิศทางในการถ่ายภาพ ให้ได้มุมที่เหมาะที่สุด
3. คาดคะเน สภาพแสงเพื่อกำหนดเวลา และรูรับแสง (โดยปกติถ้าเป็นไฟตามถนนปกติ จะใช้ประมาณ 5.6หรือ 8)
4. ตั้งความเร็วชัตเตอร์ที่ B ลั่นชัตเตอร์ค้างไว้ให้รถวิ่งผ่านจนเป็นที่พอใจ ประมาณ 10 -60 วินาที หรือถ้าทิ้งช่วงเวลานาน
ใช้ผ้าดำคลุมหน้าเลนส์ไว้ก่อนก็ได้

การถ่ายภาพไฟกลางคืน ควรถ่ายเผื่อหลาย ๆ ภาพ โดยใช้เวลาในการบันทึกภาพ และขนาดรูรับแสงต่าง ๆ กัน และจดบันทึกไว้จะดีที่สุด
และควรฝึกหัดเป็นประจำเพราะต้องอาศัยความชำนาญอย่างสูงในการถ่ายภาพประเภทนี้



การถ่ายภาพกลางคืน จะใช้โหมดที่ทำให้ การเปิดรับแสงของหน้ากล้อง ช้าลงกว่าเดิม หรือไปเพิ่มส่วน ของความไวแสงของตัวรับแสงให้มากขึ้น ดังนั้นเมื่อเราลอง ปรับการถ่ายรูปมาโหมด ถ่ายกลางคืน จะสังเกต ว่า ภาพที่ อยู่ในจอ จะเคลื่อนไหวเหมือนภาพสโลว์เวลาเราเลื่อนกล้องไประหว่างการเล็งถ่ายภาพดังนั้น ภาพที่ อยู่หน้ากล้อง เวลาที่ถ่ายโหมดกลางคืน ถ้าเป็นวัตถุที่มีการเคลื่อนไหว ก็ จะเกิดเป็น เส้น ของการเคลื่อนไหว เช่น ถ่ายรูปรถที่กำลังวิ่ง อยู่ตอนกลางคืนด้วย โหมด ถ่ายกลางคืน ไฟหน้า ไฟท้าย จะเป็นเส้น ยาวๆ หรือในทางกลับกัน หาก วัตถุที่เราจะ ถ่ายในโหมดกลางคืน ไม่ได้มีการเคลื่อนไหว แต่ มือเรา ดันเคลื่อนไหวตัวกล้อง ซะเอง ขณะกด ชัตเตอร์ผลก็คือภาพ จะเป็นเส้นเช่นเดียวกัน

ดังนั้นหลักการถ่ายภาพกลางคืนโดยการใช้โหมดกลางคืนนั้น มีวิธีการดังนี้
1. การปรับ เอ๊กส์โพส ควรปรับ ให้ โอเวอร์ ประมาณ +0.3 ขึ้นไป จน ถึง 1.2 โดย ยิ่งปรับ โอเวอร์มาเท่าไหร่ มือ
ต้อง ยิ่งนิ่งขึ้นไปเท่านั้น ถ้าต้องปรับเอ๊กส์โพส เยอะมากๆ ควรใช้ ขาตั้งกล้อง หรือ ที่วาง สำหรับ ถ่ายภาพน่าเหมาะสมกว่า
2. แนะนำให้เลือก อุณหภูมิสี แบบ แสงนีออน
3. ขณะเล็งจะถ่ายรูป พยายามดู ว่า สังเกต เห็น Noise ในหน้าจอหรือไม่ เพราะถ้าเห็น ในขณะ ถ่าย เมื่อนำภาพที่ถ่ายลง
คอมพิวเตอร์ ภาพที่ถ่ายมานั้นจะยิ่งมี Noise มากขึ้นอีก
4. สิ่งที่บ่งชี้ได้ ง่ายๆ เลย เรื่อง Noise มากหรือน้อย หาก ถ่ายโหมดกลาง คืน แล้ว เวลากด เล็งโฟกัส หาก สามารถ
โฟกัสได้เร็ว โดยที่ เราก็ปรับ เอ๊กส์โพส ไว้เยอะ นั่น หมายถึง รูปนั้น จะ คมชัด และมี Noise ไม่มาก ต่างกับรูปที่เราต้อง
ใช้เวลา หาโฟกัส อัตโนมัตินานๆ
5. ข้อ สำคัญ เมื่อกด ชัตเตอร์ลงไป แล้ว ควรจะ นิ่ง อยู่ สัก 1 วินาที ก่อน เปลี่ยน ตำแหน่งกล้อง
6. และสุดท้าย ถ้าไม่มีขาตั้งกล้อง สิ่งที่สำคัญนั้นคือมือต้องนิ่งมากๆ เอา แบบว่าตอนกดชัตเตอร์หยุด หายใจเลยได้ ยิ่งดี
READ MORE - เทคนิคการถ่ายภาพเวลากลางคืนให้สวย

อาวุธยุทโธปกรณ์ ของกัมพูชาที่ได้รับบริจาคมาจาก มหามิตร ที่ใช้สู้รบกับไทย

ข่าวสารไทยกัมพูชา
กัมพูชาได้ระดมสรรพกำลัง รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าสู่ชายแดนไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงความพร้อมเต็มรูปแบบในการทำสงครามชายแดนกับไทยที่เริ่มมาตั้งแต่วันศุกร์ 4 ก.พ.2554 รวมทั้งการนำเอารถบรรทุกรุ่นใหม่ที่ได้รับบริจาคจากรัฐบาลสหรัฐฯ กับรัฐบาลจีนในปี 2551 และ 2552 ออกใช้เป็นครั้งแรกด้วย


ไม่เพียงแต่จะเห็นรถถัง T-55 กับ ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ BTR-60 ที่ซื้อจากสาธารณรัฐยูเครนใหม่เอี่ยมเมื่อปีที่แล้วเท่านั้น ภาพถ่ายจากชายแดนฝั่งกัมพูชาล่าสุดได้เปิดเผยให้เห็นรถบรรทุกทหารใช้แล้ว ที่สหรัฐฯ บริจาคให้ในปี 2551 กำลังขนส่งทหารและอพยพราษฎรออกจากพื้นที่ อีกภาพหนึ่งเผยให้เห็นรถบรรทุกที่รัฐบาลจีนบริจาคให้ ถูกนำไปติดตั้งจรวด BM-21 "Grad" ซึ่งเป็นจรวดหมู่ (จรวดชุดหรือจรวดซัด) ที่ผลิตในสหภาพโซเวียตในอดีต กัมพูชาได้จรวดแบบนี้ ยิงโจมตีไทยในการปะทะบ่ายวันศุกร์ เช้าวันเสาร์และคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในบริเวณรอบๆ ปราสาทพระวิหารฝ่ายทหารของไทยกล่าว


ต่างไปจากการปะทะ 2 ครั้งแรกในเดือน ต.ค.2551 และ เดือน เม.ย.2552 ซึ่งครั้งนั้น ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่แบบเดิมที่ผลิตในโซเวียตบรรทุกทหารและพลเรือน รวมทั้งใช้ติดตั้งจรวดซัดด้วย ในเดือน มิ.ย.2551 ขณะที่ไทยกับกัมพูชากำลังพันตูกันเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร สหรัฐฯ ได้ส่งมอบรถบรรทุกทหารที่ใช้แล้วจำนวน 63 คันให้แก่กัมพูชา จากทั้งหมด 200 คันในโครงการช่วยเหลือประเทศนี้ปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย มีขนาดเล็กลงและมีความโปร่งใส การส่งมอบหยุดชะงักลงหลังรัฐบาลฮุนเซนส่งชาวอุ้ยกูร์ราว 20 คนให้รัฐบาลจีนในเดือน ธ.ค.


ชาวอุ้ยกูร์เหล่านั้น ลักลอบเดินทางออกจากจีนเพื่อขอลี้ภัย หลังการจลาจลใหญ่ในมณฑลซินเจียง-อุ้ยกูร์ และถูกทางการคอมมิวนิสต์เข้าปราบปราม ทั้งหมดกำลังติดต่อกับสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในกรุงพนมเปญ รัฐบาลกัมพูชาประกาศส่งทั้ง 20 คนไปให้จีน เพียง 1 วัน ก่อนที่ นายซีจิ่นผิง (Xi Jinping) รองประธานาธิบดีจีน จะเยือนกัมพูชาในวันที่ 21 ธ.ค.2552 ซึ่งจีนได้ให้เงินกู้กับเงินให้เปล่าแก่รัฐบาลฮุนเซน ถึง 1,200 ล้านดอลลาร์ แม้จะกล่าวว่าสองเหตุการณ์ไม่เกี่ยวกันก็ตาม


กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศในเดือน ก.พ. 2553 ระบุว่า การหยุดส่งมอบรถบรรทุกทหารบริจาคจำนวนที่เหลือ เป็นมาตรการตอบโต้รัฐบาลฮุนเซนหลังจากการร้องขอไม่ให้เนรเทศชาวอุ้ยกูร์ แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ฟังเสียงทัดทาน


ในเดือน พ.ค.ฮุนเซน ได้ไปร่วมงานเซี่ยงไฮ้เอ็กซ์โป 2010 และ ได้พบหารือกับประธานาธิบดีจีน นายหูจิ่นเทา ในที่สุดรถบริจาคทุกชนิดรวม 257 คัน พร้อมเครื่องแบบทหารอีก 50,000 ชุด ก็ส่งถึงกรุงพนมเปญในเดือน มิ.ย.2553 ฮุนเซนกล่าวว่า จีนเป็นมิตรที่ดี ช่วยเหลือกัมพูชาตลอดมา และ “ไม่พูดมาก”


อย่างไรก็ตาม พล.ท.จื่อเวินจุน (Zhi Wenjun) ผู้ชี้นำทางการเมือง กรมใหญ่สรรพาวุธ กองทัพปลดแอกประชาชนจีน กล่าวในพิธีส่งมอบรถบรรทุกที่จัดขึ้นในกรุงพนมเปญ ในวันที่ 23 มิ.ย.2553 แสดงความหวังว่ารถบรรทุกทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่อ “การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา” “ข้าพเจ้าเชื่อว่า มิตรชาวกัมพูชาของเราจะสามารถใช้รถบรรทุกเหล่านี้ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม” พล.ท.เวินจุน กล่าวทั้งนี้เป็นรายงานในเว็บไซต์วิทยุเสียงอเมริกาภาคภาษาเขมร (VOA- Khmer)


ต่อสถานการณ์ล่าสุดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งสหรัฐฯ และจีน ต่างออกเรียกร้องให้สองฝ่ายใช้ความอดทนและอดกลั้นอย่างถึงที่สุด แก้ปัญหาด้วยสันติวิธี คำแถลงของฝ่ายจีนยังระบุด้วยว่า จีนยังคงเป็นมิตรที่ดีกับทั้งสองประเทศ ในวันจันทร์นี้หลายประเทศรวมทั้งสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และองค์การสหประชาชาติ ได้ออกเรียกร้องให้กัมพูชาและไทยใช้ความอดทนและอดกลั้นสูงสุด และ เจรจาเพื่อแก้ความขัดแย้งอย่างสันติ ในนิวยอร์กนายบันคีมูนเลขาธิการสหประชาชาติออกคำแถลงแสดงความ "เป็นกังวลอย่างสุดซึ้ง" ต่อการเผชิญหน้ากันระหว่างไทยกับกัมพูชา


"ท่านเลขาธิการใหญ่เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย ต้องหามาตรการที่มีประสิทธิผลในการยุติความเป็นอริต่อกันและใช้ความอดกลั้นสูงสุด" คำแถลงของสำนักงานของนายบันระบุ...

อาวุธยุทโธปกรณ์ ของกัมพูชาที่ได้รับบริจาคมาจาก มหามิตร



ภาพวันที่ 6 ก.พ.2554 จรวดชุด BM-21 ที่ผลิตในสหภาพโซเวียตในอดีตแบบเดียวกับที่ทดลองยิงเมื่อตhนปี 2552 ถูกดัดแปลงติดตั้งบนรถบรรทุกที่ได้รับบริจาคจากจีนหลายชนิดจำนวน 257 คันเมื่อปีที่แล้ว กลายเป็นอาวุธลูกครึ่งทันสมัย ทหารกัมพูชากำลังจัดเตรียม เพื่อยิงถล่มฝ่ายไทยที่ชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหาร


ภาพแฟ้ม 16 ต.ค.2551 หลังการปะทะครั้งแรก 1 วันที่ชายแดนด้านภูมะเขือ รถบรรทุกที่ทำในสหภาพโซเวียต บรรทุกจรวดซัด BM-21 "Grad" วิ่งห้อไปตามถนนลูกรังใน จ.พระวิหาร ทำให้ฝุ่นคลุ้ง วันนี้กัมพูชาดัดแปลงจรวดไปติดตั้งในรถบรรทุกที่ได้รับบริจาคจากจีนเมื่อปีที่แล้ว คันเล็กกว่า คล่องตัวกว่าและน่าจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า



ภาพแฟ้ม 23 มิ.ย. ทหารกัมพูชายืนอยู่หน้ารถบรรทุกลำเลียงพล "ตงเฟิง" (Dong Feng) เป็นหนึ่งในบรรดารถบรรทุกหลากชนิด ที่ได้รับมอบจากจีนจำนวน 257 คัน และ ในที่สุดก็ได้เห็นมาวิ่งที่ชายแดนไทยสัปดาห์ที่แล้ว



ภาพแฟ้ม 23 มิ.ย.2551 ยานพาหนะที่จีนมอบให้แก่กองทัพกัมพูชาทั้งหมด 257 คันรวมทั้งรถพยาบาลและรถบรรทุกที่ดัดแปลงติดตั้งจรวดชุดที่ผลิตในโซเวียตได้ พิธีส่งมอบจัดขึ้นที่สนามบินทหาร กรุงพนมเปญ





รถบรรทุกทหารกัมพูชากำลังนำราษฎรออกจากพื้นที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร สังเกตุให้ดีจึงรู้ว่าเป็นรถบรรทุก GMC M35A2 ที่รัฐบาลสหรัฐฯ บริจาคให้จำนวน 63 คันเมื่อ 3 ปีก่อน เพิ่งจะเห็นรถบรรทุกคันใหญ่นี้ ออกมาวิ่งให้เห็นที่ชายแดนไทยเป็นครั้งแรก แทนรถบรรทุกจากสหภาพโซเวียตที่ใช้มาแต่ยุคสงครามเย็น



ภาพแฟ้ม 18 ต.ค.2551 หรือ 3 วันหลังการปะทะครั้งแรกที่ชายแดนภูมะเขือ ทหารกัมพูชานั่งบนยานลำเลียงพลหุ้มเกราะรุ่นเก่าที่ผลิตในสหภาพโซเวียตตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ข้างบนติดตั้งปืนไร้แรงสะท้อน เข้าใจว่าที่นั่งข้างในคงจะเต็มหมดแล้ว กัมพูชาเพิ่งได้ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะรุ่นใหม่จากยูเครนปลายปีที่แล้ว



ภาพวันที่ 5 ก.พ.2554 มาคราวนี้นั่งรถ 8 ล้อ ทหารกัมพูชาบนยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ BRT-60 ที่ซื้อจากสาธารณรัฐยูเครนปีที่แล้ว ซึ่งนำออกใช้แทนยานลำเลียงพลรุ่นเก่าที่มีอายุเกือบครึ่งศตวรรษ กัมพูชาได้ระดมทุกสรรพกำลังเข้าชายแดนไทยในครั้งนี้ ทุกอย่างต่างไปจากเมื่อครั้งปะทะกัน 3 ปีก่อน
READ MORE - อาวุธยุทโธปกรณ์ ของกัมพูชาที่ได้รับบริจาคมาจาก มหามิตร ที่ใช้สู้รบกับไทย