ปลูกมะม่วงหิมพานต์ พืชเศรษฐกิจราคาดี ปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวได้ชั่วลูกหลาน....

19.5.63

   

สวัสดีทุกท่านที่มีใจรักในการทำเกษตรครับ วันพืชมงคลพึ่งผ่านไปพร้อมกับลมฝนและพายุฤดูร้อนที่มอบความชุ่มฉ่ำให้กับผืนดินทั้งประเทศครับ หลังจากนี้ไปก็จะเริ่มเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกแบบเต็มตัวแล้วนะคับ วันนี้ Blogger ลูกลำปาว จะมานำเสนอพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง ที่เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นและเคยลิ้มรสชาติแน่นอน นั้นก็คือมะม่วงหิมพานต์นั้นเองคับ... 

                                                 ภาพจาก:medthai.com

 มะม่วงหิมพานต์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anacardium occidentale เป็นไม้ดอกยืนต้น ในวงศ์ Anacardiaceae กลุ่มเดียวกับมะม่วง (mango) และถั่วพิสตาชีโอ มะม่วงหิมพานต์เป็นพืชพื้นเมืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ซึ่งเรียกเป็นภาษาโปรตุเกสว่า "กาฌู" ประเทศไทยทางปักษ์ใต้เรียกว่า “หัวครก”ส่วนภาคอื่นๆเรียกมะม่วงหิมพานต์ “ “ต้นหัวครก”หรือมะม่วงหิมพานต์นี้ได้มีการนำเข้ามาปลูกครั้งแรกที่ภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2444 โดยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) เป็นพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง ประกอบด้วยโปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันที่ส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว (เมื่อบริโภคเข้าไปจะไม่เพิ่มไขมันในเส้นเลือด) คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ, บี, อี และเกลือแร่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ปัจจุบันเริ่มมีการกระจายปลูกไปทั่วประเทศไทย ทั้งภาคตะวันออก ภาคเหนือ และอีสาน... มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ไม่ผลัดใบ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมสูง ทนแล้งได้ดี ปลูกครั้งเดียวสามารถให้ผลผลิตยาวนานหลายสิบปี ใบนิยมนำมาทานกับขนมจีน เมล็ดนิยมนำมาอบหรือทอดทานเป็นของขบเคี้ยวหรือนำไปเป็นส่วนประกอบในอาหารได้หลายชนิดทั้งคาวหวาน... 

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ ของขบเคี้ยวเลิศรส..


ภาพจาก:sukkaphap-d.com

ใบมะม่วงหิมพานต์กินกับขนมจีน อร่อยนักแล....


ภาพจาก :pantip.com //user: apotheker

ปัจจุบันสายพันธุ์มะม่วงหิมพานต์ที่นิยมปลูกกินเมล็ดจะมีพันธุ์ M-23,พันธุ์ ศก.60-1และ2,พันธุ์มาบุญครอง เป็นสายพันธุ์ทานเมล็ดที่ให้ผลผลิตดีในตอนนี้ครับ...สำหรับขั้นตอนวิธีการปลูกมะม่วงหิมพานต์นั้นมีวิธีการดังนี้ครับ....

วิธีการปลูกมะม่วงหิมพานต์ 
1.เลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ดี  นำไปแช่น้ำ 2 คืนแล้วเอามาเพาะใส่ถุงพลาสติก ขนาดไม่ต้องใหญ่ ประมาณ 5-8 นิ้วก็เพียงพอ หรือจะใช้ขุดหลุมปลูกเลยก็สามารถทำได้ การกดเมล็ดลงในดินนั้น ให้วางด้านเว้าของเมล็ดลง กดลงครึ่งเมล็ดพอ รดน้ำเช้าเย็น ประมาณ 21 วันเมล็ดก็จะเริ่มงอก 

การเพาะเม็ดมะม่วงหิมพานต์


ภาพจาก:bansuanporpeang.com

2.ดูแลรดน้ำจนต้นกล้ามีอายุ 3- 4 เดือนก็พร้อมที่จะลงปลูกแล้ว

ต้นกล้ามะม่วงหิมพานต์พร้อมปลูก


ภาพจาก Kaidee.com

                                           
 3. จากนั้นให้ขุดหลุมเตรียมเอาต้นกล้าลง ให้เป็นหลุมที่มีความกว้าง ยาว ลึก ประมาณ 50-100 เซนติเมตร และปลูกเว้นระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถว 6 เมตรเนื่องจากเมื่อเติบโตเต็มที่ ใบกิ่งก้านจะแผ่ขยายออกไปใช้พื้นที่กว้างพอสมควร หากปลูกชิดกันเกินไป เวลาเติบโตต้นจะเบียดกัน ทำให้ได้รับแสงไม่เพียงพอและทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร
 4. จากนั้นให้ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่หมักไว้นานจนไม่มีความร้อนแล้ว ประมาณ3-5 กิโลกรัม มาผสมกับดินเทลงไปในหลุมประมาณครึ่งหลุม แล้วจึงนำต้นกล้ามะม่วงหิมพานต์ที่จะปลูกวางลงในหลุม โดยให้โคนต้นอยู่เหนือปากหลุมเล็กน้อย ก่อนที่จะกลบดินอีกครั้ง
5.ปักไม้ผูกติดกับต้นเพื่อสร้างไม้ค้ำลำต้นเอาไว้ ต้นมะม่วงหิมพานต์จะได้สามารถต้านทานแรงลมได้ ไม่ล้มเสียก่อนที่จะเติบโต 
6.กลบดินลงให้แน่น และรดน้ำให้ชุ่มและหาเศษวัสดุคลุมโคลน ช่วงแรกๆหลังปลูกควรรดน้ำเช้าเย็น เมื่อต้นมะม่วงหิมพานต์ติดดีแล้วหรือเริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าฝนก็ไม่จำเป็นต้องรดน้ำก็ได้

มะม่วงหิมพานต์เริ่มออกลูก
ภาพจาก Kaidee.com



มะม่วงหิมพานต์จะสามารถเริ่มให้ผลผลิตได้เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3-4  โดยขึ้นกับความอุดมสมบูรณ์ของต้นด้วย มะม่วงหิมพานต์จะเริ่มติดดอกช่วงเดือน ธันวาคม-มีนาคม และจะสุกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม โดยเราจะเก็บเกี่ยวเมื่อผลสุกเป็นสีเหลืองหรือสีแดง โดยจะปล่อยให้หล่นลงมาเอง และจะบิดเอาแต่เมล็ด ส่วนผลมะม่วงหิมพานต์สามารถนำไปทำปุ๋ยหมักหรือนำไปแปรรูปเป็นแยมหรือหมักไวน์ก็ได้...

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ตากแห้งพร้อมนำไปขายหรือแปรรูป
ภาพจาก:Pantip.com


ปัจจุบันเม็ดมะม่วงหิมพานต์ตากแห้งยังไม่แกะราคาอยู่ที่ 20-50 บาทแล้วแต่ปีไหนผลผลิตมากหรือน้อย และเมล็ดที่แกะแล้วราคา 300-400 หากเรานำไปทอดขายหรืออบเกลือราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 400-500 บาท ถือว่าราคาดีเลยทีเดียว..นับเป็นพืชเศรษฐกิจอีกตัวที่น่าปลูก เพราะปลูกง่ายดูแลง่ายไม่ต้องใช้ต้นทุนเยอะและยังให้ผลตอบแทนดีมากเลยทีเดียว มะม่วงหิมพานต์ 1 ไร่ จะให้ผลผลิตอยู่ที่ 400-600 กิโลกรัม ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุของต้นและความอุดมสมบูรณ์ด้วย....

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น