วิธีการเลี้ยงกบในขวดพลาสติก

22.1.53

วันนี้ไปอ่านเจอมาครับ ดีมากเลย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นที่ แต่สามารถเลี้ยงกบได้ครับ ผลผลิตที่ได้ กบตัวโต แข็งแรง และสะอาด ครับ

วิธีการเลี้ยงกบในขวดพลาสติก

วัสดุและอุปกรณ์
1. ขวดพลาสติก ขนาดบรรจุ 1.25 ลิตร
2. ตู้หรือชั้นวางของ
3. มีด หรือคัตเตอร์
4. น้ำสะอาด
5. อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับเลี้ยงกบ
6. ลูกกบ อายุ 1 เดือน ขึ้นไป

วิธีการเลี้ยง :
วิธีการเลี้ยงกบในขวดพลาสติก
1 .นำขวดพลาสติกที่เตรียมไว้ทำความสะอาด
2 .เจาะรูเป็นรูปสามเหลี่ยม ขนาด 2 เซนติเมตร บริเวณ 1 ส่วน 3 ของขวดด้านบน เพื่อเป็นที่หายใจและให้อาหาร
3. นำลูกกบ อายุ 1 เดือน ขึ้นไป ใส่ลงในขวดพลาสติกที่เตรียมไว้ เติมน้ำพอท่วมหลังกบ ปิดผาให้สนิท
4. นำไปวางในชั้นวาง โดยวางขวดพลาสติกให้เอียง 45 องศา ไว้ในที่ร่ม
5. ให้อาหารวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 3-5 เม็ด (เช้า-เย็น)
6. เปลี่ยนน้ำวันละ 1 ครั้ง ก่อนให้อาหารครั้งที่ 2 (ตอนเย็น)
7. เปิดฝาขวด เมื่อกบโตแล้ว (3 เดือน ขึ้นไป)
8. นำกบไปประกอบอาหารได้ เมื่ออายุตั้งแต่ 4 เดือน ขึ้นไป

การให้อาหาร :
วิธีการเลี้ยงกบในขวดพลาสติก

อาหารผสมอัดเม็ด อาหารผสมแบบอัดเม็ดเป็นอาหารที่สะดวกในการใช้ การเก็บรักษา มีปริมาณและคุณค่าอาหารที่แน่นอน การเตรีอมอาหารผสมจะเตรียมจากวัตถุดิบชนิดต่าง ๆ นำมาผสม กันตามสูตร อาหารผสมนี้ลูกกบจะไม่ค่อยคุ้นเคยต้องหัดให้กินโดยในระยะแรกอาจจะผสมปลาเป็ดให้ มากไว้ก่อนแล้วค่อยๆ ลดปลาเป็ดลงจนเหลือแต่อาหารผสมล้วน ๆ

ชนิดของอาหาร

1.1 อาหารธรรมชาติ ได้แก่ไรแดงและแพสงค์ตอน จะให้ลูกอ๊อดหลังจากถุง ไข่แดงยุบและให้กินอาหารเหล่านี้ประมาณ 1-2 อาทิตย์

1.2 อาหารส่าเร็จ ได้แก่ไข่แดง เนื้อปลาต้มสุก ผักกาดขาวลวกพอให้สุก ไข่ตุ๋น เป็นต้น ซึ่งเป็นอาหารเสริมอาหารธรรมชาติต้องอาศัยการฝึกให้ลูกกบรู้จักกินอาหารพวกนี้ เพราะระยะแรกลูกอ๊อดจะไม่กินอาหาร

1.3 อาหารเป็นหรืออาหารที่ยังมีชีวิตได้แก่หนอนและแมลงต่าง ๆ ซึ่งเป็นอาหาร ที่ลูกกบเล็กและกบโตชอบ

1.4 อาหารผสม ได้แก่การนำอาหารต่าง ๆ มาผสมให้เข้ากัน โดยใช้เครื่องผสมอาหาร หรือจะใช้อาหารผสมอัดเม็ดเหมือนกับอาหารปลาก็ได้ อาหารที่ใช้ควรมีโปรตีนประมาณ 30-40 เปอร์เชนต์ ชนิดและขนาดของอาหารผสมควรมีความสัมพันธ์กับขนาดของลูกกบด้วย

สูตรการทำอาหารกบ
1.ช่วงลูกอ๊อด
วัตถุดิบ
1.รำอ่อน
2.ไข่

วิธีการทำ
1.นำไข่ดิบมาตีในน้ำอุ่น
2.นำรำอ่อนมาผสมกับไข่ที่ตีให้แตกแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3.นำไปเลี้ยงลูกอ๊อดของกบได้เลย

2.กบโต
วัตถุดิบ 1.ไส้เดือนสด
2.หอยเชอร์รี่
3.รำอ่อน
4.กล้วยสุก

วิธีการทำ 1.นำไส้เดือนมาสับ
2.นำหอยเชอร์รี่มาต้มแล้วแกะออก มาสับให้ละเอียด
3.นำส่วนผสมทุกอย่างมาปั่นให้ละเอียดแล้วปั่นเป็นก้อน แล้วโยนให้กบกินได้เลย

การสังเกตและให้เวลาในการเลี้ยงกบขวด :
1. ควรให้อาหารพอเหมาะ โดยให้สังเกตไม่มีอาหารเหลือในขวด เมื่อให้อาหารครั้งต่อไป
2. น้ำที่เปลี่ยนถ่ายสามารถนำไปรดต้นไม้หรือผักสวนครัวต่อไป
3. ควรทำความสะอาดขวดที่ใช้เลี้ยงเมื่อสกปรกหรือมีกลิ่น
4. เมื่อพบกบมีบาดแผลให้รีบรักษา โดยผสมยาปฏิชีวนะกับอาหารให้กบกิน ส่วนใหญ่จะพบบาดแผลที่ปาก เนื่องจากกระโดดในขวดเมื่อกบตัวโตขึ้น
5. ขวดพลาสติกที่นำมาเลี้ยงควรเป็นขวดลักษณะสี่เหลี่ยม จะสะดวกและเหมาะสมในการจัดชั้นวาง

ตัวอย่างเกษตรกรผู้ประสบผลสำเร็จจากการเลี้ยงกบในขวดพลาสติก



"ฉอ้อน เผนโคกสูง"
วิธีการเลี้ยงกบในขวดพลาสติก

เกษตรกรวัย 54 ปี แห่งเมืองย่าโม "โคราช" เจ้าของไอเดียการเลี้ยงกบคอนโด หรือที่ใช้ล้อยางรถยนต์วางซ้อนกันจนเป็นที่ฮือฮาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ได้แนวคิดใหม่ใช้ขวดน้ำอัดลมขนาด 5 ลิตรเลี้ยงกบ ซึ่งแต่ละขวดเลี้ยงได้ 4-5 ตัว และพบว่าวิธีนี้นอกจากกบตัวใหญ่ น้ำหนักดี สะอาด ประหยัดต้นทุนแล้ว ยังปลอดภัยจากโรคอีกด้วย
การเลี้ยงกบคอนโด

หลังประสบความสำเร็จจากการเพาะเลี้ยงกบคอนโด ซึ่งเป็นการเลี้ยงแบบใช้ยางรถยนต์ซ้อนกัน 3-4 ชั้นใส่น้ำแล้วนำลูกกบลงไปเพาะเลี้ยง ซึ่งวิธีดังกล่าวประหยัดพื้นที่ สะดวกต่อการเลี้ยง กบจะแยกย้ายกันอยู่เป็นชั้นๆ ไม่รบกวนกัน ทำให้มีขนาดใหญ่ แข็งแรงสมบูรณ์ และจำหน่ายได้ราคาดีสร้างรายได้ให้อย่างงามนั้น

ล่าสุด ฉอ้อนค้นพบวิธีการเลี้ยงกบแบบใหม่ ที่สะดวก เลี้ยงง่าย และประหยัดพื้นที่กว่าการเลี้ยงแบบคอนโด แถมยังปลอดจากเชื้อโรคต่างๆ ที่สำคัญเป็นรูปแบบการเลี้ยงที่ไม่เฉพาะคนรูปร่างปกติเท่านั้น คนพิการที่มีความสนใจก็สามารถจะประกอบอาชีพได้ นั่นคือการเลี้ยงกบในขวดพลาสติก
"การเพาะเลี้ยงแบบนี้ทำได้ง่าย เพียงนำขวดน้ำพลาสติกขนาดบรรจุน้ำ 5 ลิตร ใส่น้ำเพียงเล็กน้อย วางขวดแนวนอนแล้วเจาะรูเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าไว้เป็นที่เปิดใส่อาหารเม็ดซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้เลี้ยงปลาดุก จากนั้นใส่ลูกกบที่อายุ 60 วันลงในขวด ขวดละไม่เกิน 5 ตัว เพาะเลี้ยงต่อไปอีก 90 วัน จากนั้นก็เอากบไปขายได้ซึ่งน้ำหนักแต่ละตัวจะอยู่ที่ 4 ขีดกว่า ราคาขายกิโลกรัมละ 80-90 บาท โดยจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้าน" ฉอ้อนเผยถึงวิธีการเลี้ยง



ส่วนการนำกบออกไปขาย ฉอ้อนบอกให้ตัดขวดหรือไม่ชั่งขายทั้งขวดโดยให้ลูกค้าหิ้วขวดกลับไปเลยก็ได้เพราะต้นทุนขวดไม่แพงเพียงใบละ 1-2 บาท ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านรับซื้อของเก่า ทั้งนี้หากจะเลี้ยงจำนวนมากก็ต้องทำนั่งร้านคล้ายชั้นวางของเพื่อวางขวดน้ำพลาสติกที่ใช้เลี้ยงกบเรียงไว้เป็นแถวๆ 3-4 ชั้นแล้วแต่สะดวก

วิธีนี้ปลอดภัยจากโรค สะดวกกว่าเลี้ยงในคอนโด เพราะไม่ต้องทำความสะอาดเพียงแค่เปลี่ยนน้ำทุก 3 วัน แถมประหยัดน้ำกว่า ศัตรูหรือสัตว์ต่างๆ เข้าไปรบกวนไม่ได้ ทำให้กบสะอาดแข็งแรง ขายได้ราคา ที่สำคัญเป็นวิธีเลี้ยงที่เหมาะสำหรับคนพิการที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้สะดวก ซึ่งหากท่านใดสนใจติดต่อมาที่ผมได้" เจ้าของความคิดฝากบอก

พร้อมระบุถึงสาเหตุที่คิดค้นการเลี้ยงวิธีนี้ขึ้นมา เพราะพ่อเคยสอนให้ตนเลี้ยงกบในกะลา โดยนำกะลามาครอบลูกกบ กะลาละ 1 ตัว และหยอดอาหารลงไปตามรูของกะลา ซึ่งกว่าจะครบก็ใช้เวลานาน แต่เมื่อบริษัทน้ำอัดลมผลิตขวดพลาสติกขนาด 5 ลิตรออกมา จึงเกิดไอเดียนำกบเข้าไปเลี้ยงและพัฒนาจนประสบความสำเร็จ

สำหรับผู้ที่สนใจการเพาะเลี้ยงกบทั้ง 2 แบบ ฉอ้อนบอกหากต้องการไปดูวิธีการเลี้ยงแบบให้เห็นกันจะๆ ก็แวะไปเยี่ยมเยือนได้ที่ 106 หมู่ 8 บ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา หรือหากอยู่ไกลไม่สามารถเดินทางไปได้ สามารถโทรไปสอบถามที่ 08-6261-1997 หรือ 08-1955-1431 ยินดีให้คำแนะนำกับทุกคน



นางสัมพันธ์ ต้นกันยา
วิธีการเลี้ยงกบในขวดพลาสติก
วิธีการเลี้ยงกบในขวดพลาสติก


ครูเชี่ยวชาญ โรงเรียนบ้านคงอุดม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำโครงการเลี้ยงกบขวดเพื่อเศรษฐกิจในครัวเรือนในโรงเรียนจนประสบความ สำเร็จสามารถขยายผลไปสู่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงสามารถประกอบเป็นอาชีพเสริม ในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี คุณสัมพันธ์ได้บอกถึงข้อดีของการเลี้ยงกบนาในรูปแบบนี้มีจุดเด่นตรงที่ ประหยัดพื้นที่ในการเลี้ยงและลดต้นทุนในการผลิต โดยเริ่มต้นจากการจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ในการเลี้ยง ใช้ขวดพลาสติกที่ใช้แล้วขนาดบรรจุ 1.25 ลิตร นำขวดพลาสติกมาล้างทำความสะอาด หลังจากนั้นเจาะรูเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาด 2 เซนติเมตร บริเวณ 1 ส่วน 3 ของขวดด้านบนเพื่อเป็นที่หายใจและให้อาหาร

นำลูกกบนาที่มีอายุประมาณ 2-3 อาทิตย์ มาใส่ในขวดพลาสติกขวดละ 1 ตัว ปิดฝาขวดให้แน่นใส่น้ำลงไปประมาณ 1 ใน 4 ของขวด นำไปวางในชั้นวางลักษณะขวดเอียง 45 องศา โดยเอาปากขวดลงและเอาก้นขวดบริเวณที่เจาะรูขึ้น สถานที่วางขวดจะต้องวางในที่ร่มและเย็น ป้องกันแสงแดดส่องเผาตัวกบ และควรจะเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เช่น ใต้ชายคาบ้าน ในระยะแรกในการเลี้ยงใช้อาหารกบเล็ก ถ้าไม่มีหรือหายากอาจจะประยุกต์ใช้อาหารปลาดุกเล็กที่มีโปรตีนไม่น้อยกว่า 30% ให้อาหารวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 3-5 เม็ด เช้า-เย็น

เมื่อกบนาโตขึ้นให้ปรับสูตรอาหารเป็นอาหารปลาดุกกลางและปลาดุกใหญ่ตามลำดับ ในระหว่างการเลี้ยงจะต้องมีการถ่ายเทน้ำ 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย โดยให้สังเกตจากเศษอาหารในขวดถ้ามีมากและน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เมื่อเลี้ยงกบในขวดได้นานประมาณ 3 เดือน ให้เปิดฝาปิดขวดและน้ำหนักของตัวกบนาจะได้ขนาด 200-250 กรัม ซึ่งอัตราการเจริญเติบโตใกล้เคียงกับการเลี้ยงในบ่อดิน

คุณสัมพันธ์ ได้บอกว่าเมื่อกบนามีอายุได้ 4 เดือน ให้นักเรียนจับมาบริโภคได้ ข้อเสนอแนะในการเลี้ยงกบในขวดพลาสติกควรจะให้อาหารพอเหมาะไม่ควรมีอาหาร เหลือในขวด น้ำที่เปลี่ยนถ่ายให้นำไปรดต้นไม้หรือพืชผักสวนครัว ขวดพลาสติกที่นำมาเป็นภาชนะเลี้ยงควรเป็นขวดลักษณะสี่เหลี่ยมเพื่อสะดวกใน การจัดชั้นวางรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่โรงเรียนบ้านคงอุดม โทร. 0-4222-3430


ลุงค่อย อินแพง



เกษตรกรวัย 50 ปีเศษ ชาวบ้านหมู่ 9 ต.ร่มเมือง อ.เมือง จ.พัทลุง เลี้ยงกบแบบปล่อยเลี้ยงในบ่อ แต่กบกลับโตช้า และลำตัวมีขนาดเล็ก-ใหญ่ไม่เท่ากัน เพราะต่างแย่งอาหารกัน จึงคิดทดลองเลี้ยงกบในขวดพลาสติก เนื่องจากมองว่าน่าจะตัวใหญ่เพราะไม่มีการแย่งอาหารกัน และไม่เป็นโรค




ลุงค่อย กล่าวว่า การเลี้ยงกบโดยใช้ขวดพลาสติกชนิดเหลี่ยม ขนาด 1.25 ลิตร เจาะรูด้านข้างเป็นรูกลมขนาด 2 เซนติเมตร และนำคอขวดน้ำพลาสติกชนิดกลมมาเสียบ นำมุ้งมาคลุมด้านบน รัดด้วยยางเส้นกันกบกระโดดออก ให้อาหารสำเร็จรูปวันละ 2 มื้อ เปลี่ยนถ่ายน้ำ 2 วันครั้ง ไป 15 วัน จึงเปลี่ยนอาหารเป็นอาหารกบรุ่น พอได้ 1 เดือนเปลี่ยนเป็นอาหารกบใหญ่ ประมาณ 2-3 เดือนก็จับขาย จากการทดลองเลี้ยงกบ จะได้ขนาด 2-3 ตัวต่อกิโลกรัม ส่งขายตามร้านขายอาหารกิโลกรัมละ 100 บาท โดยพ่อค้าจาก จ.นครศรีธรรมราช เข้ามาเหมาหมด เพื่อส่งขายประเทศจีน เพราะได้เนื้อกบที่นุ่มรสชาติอร่อย และไม่มีกลิ่น เมื่อเทียบกับการเลี้ยงบ่อดิน




การเลี้ยงจะเป็นแบบโรงเรือนโดยทำเป็นชั้นๆ เพื่อวางขวดเป็นแถวข้างๆบ้าน เปิดโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก โดยจะเลี้ยงเป็นรุ่น รุ่นละ 100 ตัว ถ้าต้องการให้โตเร็วควรเลี้ยงกบตัวเมีย นอกจากช่วยเสริมรายได้ให้ครัวเรือนแล้ว ยังสามารถนำขวดพลาสติกเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าอีกด้วย



2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สุดยอด
อยากลองทำดูเหมือนกัน
แปลกดีๆ

Unknown กล่าวว่า...

แคบ ทำให้กบไม่ได้กระโดดเหมือนตามะรรมชาติ
ทำให้ไมีกล้ามเนื้อมัดๆ แบบปกติ

แสดงความคิดเห็น